7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

ในปีค.ศ. 2007 มีคนกว่า 100 ล้านคนโหวตเลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ (New 7 Wonder of the World) โดยเราจะมาย้อนรอยรายชื่อที่ชนะทั้งเจ็ดกันโดยที่ไม่ได้จัดอันดับ

กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)

สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราชสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ และมีการสร้างขยายต่อเติมมาถึงในสมัยราชวงศ์หมิงช่วงศตวรรษที่ 16 กำแพงเมืองจีนเป็นป้อมปราการหินและดินที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องพรมแดนของจักรวรรดิจีนจากการรุกรานของชาวมองโกล โดยกำแพงเมืองจีนเป็นกำแพงที่มีความยาวร่วม 21,916 กม. ทำให้เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ยาวที่สุดในโลก

great wall of china
กำแพงเมืองจีน

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ (Christ the Redeemer Statue)

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ในลำดับถัดมาคือ กริชตูเรเดงโตร์ หรือ Christ The Redeemer รูปสลักพระเยซูคริสต์ความสูง 38 เมตร แขนยาว 28 เมตร สัญลักษณ์อันโด่งดังของประเทศบราซิล แกะสลักจากหินสบู่ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาดู (Cocavardo) โดยศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักของประเทศบราซิล และรูปสลักนี้ก็ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาโดยหันพระพักตร์ของพระเยซูคริสต์เข้าหาเมือง ให้เสมือนว่าเมืองอยู่ใต้การคุ้มครองของพระองค์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในประเทศ เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1922 และใช้เวลาก่อสร้าง 9 ปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นจุดชมวิวเมืองริโอเดจาเนโรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง

Christ the Redeemer Statue
รูปปั้นพระเยซูคริสต์

มาชูปิกชู (Machu Picchu)

มาชูปิกชู (Machu Picchu) หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า “นครสาบสูญแห่งอินคา” (The Lost City of The Incas) เป็นสถานที่สำคัญของชนเผ่าอินคา และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงห่างจากเมืองกุสโกไปประมาณ 70 กิโลเมตรในประเทศเปรู สร้างโดยจักรพรรดิปาชากูติ (Pachacuti) แห่งอาณาจักรอินคาในช่วงศตวรรษที่ 15 ที่ได้ชื่อว่าเมืองสาบสูญเพราะผู้คนอพยพออกจากดินแดนแห่งนี้ไปหมด เนื่องจากการรุกรานของชาวสเปน  และถูกทิ้งล้างไปนานร่วม 300 ปี จนนักโบราณคดี ไฮแรม บิงแฮม ได้มาค้นพบเมื่อ ค.ศ. 1911

มาชูปิกชู
มาชูปิกชู

นครเปตรา (Petra)

เมืองโบราณที่สร้างโดยการเจาะและแกะสลักหินผาในหุบเขา ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาปเดดซี (Dead Sea) และอ่าวอะกาบา (Gulf of Aqaba) ในเขตเมืองมาอัน (Ma’an) ประเทศจอร์แดน คาดว่าสร้างขึ้นในราว 312 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นเมืองหลวงของชาวนาบาเทียน (Nabataeans) สันนิษฐานว่านครแห่งนี้ถูกทิ้งร้างในปี ค.ศ. 106 จนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งในปี ค.ศ. 1812 โดยโจฮันน์ ลุควิค เบิร์กฮาร์ท (Johann Ludwig Burckhardt) นักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์

นครเปตรา
เปตรา

โคลอสเซียม (Colosseum)

เป็นสนามกีฬาขนาดมหึมาที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมของชาวโรมัน ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในราวคริสต์ศักราชที่ 70  ในอดีตโคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาสำหรับชมการต่อสู้ของนักรบมากความสามารถและมีฝีมือเก่งฉกาจที่เรียกว่าเกลดิเอเตอร์  โดยการต่อสู้มีหลายรูปแบบทั้งการต่อสู้ระหว่างเกลดิเอเตอร์ด้วยกันเองและเกลดิเอเตอร์กับสัตว์ เช่นสิงโต 

สามารถจุผู้เข้าชมได้เป็นจำนวนหลายหมื่นคน สนามกีฬาแห่งนี้มีอายุยาวนานกว่า 2,000 ปี และยังเป็นต้นแบบของการออกแบบสนามกีฬามาจนถึงยุคปัจจุบันอีกด้วย

โคลอสเซียม
โคลอสเซียม

ทัชมาฮาล (Taj Mahal)

สุสานหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ ที่เรียกได้ว่าเป็นอัญมณีแห่งศิลปะมุสลิมในประเทศอินเดีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา (Yamuna) ในเมืองอัครา (Agra) สร้างตามพระราชดำริของจักพรรดิ ชาห์ จาฮาน (Shah Jahan) ในปี ค.ศ. 1632 ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ปี เพื่อเป็นที่ฝังพระศพของพระมเหสีมุมทัช มาฮาล (Mumtaz Mahal) ต่อมาถึงช่วงปลายพระชนม์ชีพ จักรพรรดิ ชาห์ จาฮาน ถูกพระราชโอรสของพระองค์เองคุมขังเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ และพระศพของพระองค์ได้ถูกฝังอยู่เคียงข้างพระมเหสีในทัชมาฮาลนั่นเอง

ทัชมาฮาล
ทัชมาฮาล

พีระมิดแห่งเมืองชีเชนอิตซา (Chichen Itza)

เมืองโบราณของชาวมายา (Maya) ที่มีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 5 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตเมืองทินัม (Tinum) ในคาบสมุทรยูคาทาน (Yucatan) ประเทศเม็กซิโก (Mexico) มีวิหารที่สร้างในลักษณะเป็นพีระมิดชื่อว่า El Castillo ที่มีแท่นบูชายัญสำหรับทำพิธีสังเวยเทพเจ้าอยู่ด้านบน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราว 600 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาในราวปี ค.ศ. 1532 ชาวสเปนได้เข้ามายึดครองและถูกทิ้งร้างไปในที่สุด

ชีเชนอิตซา
ชีเชนอิตซา