เรือริมโขง

เที่ยวเชียงคาน 3 วัน 2 คืน

เชียงคานเป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก ริมแม่น้ำโขง ด้วยวิถีชีวิต slowlife เรื่อยๆไม่ต้องรีบร้อน บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อน ชมทะเลหมอกยามเช้า เดินเล่นริมแม่น้ำโขงยามเช้าและยามเย็น เดินหาของกินตามถนนคนเดินยามค่ำคืน

ริมโขงเชียงคาน
เชียงคาน

การเดินทางไปเชียงคาน

เริ่มที่การเดินทางกันเลยดีกว่า ทริปนี้ตัดสินใจไป 3 วัน 2 คืนในช่วงวันหยุดยาว เดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบิน AirAsia บินตรงจากดอนเมืองไปที่สนามบินเลย พอมาถึงสนามบินก็นั่งรถสองแถวไปต่อที่ บขส เลย จ่ายค่าเดินทาง 20 บาท หลังจากนั้นนั่งรถสองแถวคันใหญ่จาก บขส เลยเพื่อไปที่เชียงคานใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เสียค่าเดินทางประมาณ 35 บาท

นอกจากนี้การเดินทางไปเชียงคานจากที่ บขส เลย สามารถนั่งรถทัวร์มาได้เช่นกัน และจากสนามบินเลยก็สามารถนั่งรถตู้ของ AirAsia ได้แต่ต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มเติมอีก 250 บาท ไม่อย่างนั้นก็เช่ารถจากสนามบินเลยเพื่อไปเชียงคาน และยังสามารถนั่งรถทัวร์ตรงจากกรุงเทพไปที่เชียงคานได้อีก

สนามบินเลย
สนามบินเลย

พอมาถึงเชียงคานก่อนจะเช็คอินเข้าที่พักแวะกินข้าวกลางวันที่ร้านจุ่มนัวยายพัด ซึ่งเป็นร้านดังประจำเชียงคานที่ต้องมาลองกิน เมนูที่มากินคือ จุ่มนัว พอตอนกินไปรู้สึกว่าคล้ายๆสุกี้ผสมเย็นตาโฟส่วนรสชาติก็อร่อยใช้ได้เลย

จุ่มนัว
จุ่มนัว

หลังจากนั้นก็เดินเล่นซักหน่อยพอรู้สึกร้อนๆก็แวะจิบเครื่องดื่มที่ร้านชื่อ เอ็กซ์วันคาเฟ่ และที่นี่มีเครื่องดื่มมากมายให้เลือกตั้งแต่กาแฟ ชา และอื่นๆ

เอ็กซ์วันคาเฟ่
เอ็กซ์วันคาเฟ่

เดินเล่นอีกสักนิดหน่อยก็จนมาเจอวัดศรีคุณเมือง

วัดศรีคุณเมือง
วัดศรีคุณเมือง
วัดศรีคุณเมือง2
วัดศรีคุณเมือง

คราวนี้ก็ถึงเวลาเช็คอินเข้าที่พัก ที่พักคืนแรกพักที่โรงแรม U chiang khan สภาพที่พักดี พนักงานหรือเจ้าของนี่แหละต้อนรับดี เป็นกันเอง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆเชียงคานให้ด้วย

u chaing khan
ห้องพัก

พอตกเย็นหน่อยก็ออกมาเดินเล่นที่ถนนคนเดิน

Souvenir shop
ร้านขายของที่ระลึก

เดินมาเรื่อยๆก็เจอร้านขายอาหารข้างๆ

ร้านขายข้าวจี่
ร้านขายข้าวจี่

เช้าวันที่สองตื่นมาขับมอไซต์ที่เช่า 1 วัน เสียค่าเช่าไป 250 บาท เพื่อขับเที่ยวในวันนี้และที่แรกของวันนี้จะไปดูทะเลหมอกที่ ภูทอก พอไปถึงทางเข้าก็จอดรถไว้แถวนั้นเสียค่าจอดรถ 20 บาท และการจะขึ้นไปบนยอดภูทอกได้ต้องนั่งรถขึ้นไปและมีค่าเดินทางไป – กลับ 25 บาท เริ่มรับส่งคนขึ้นภูทอกตั้งแต่ตอน 5.30

วิวภูทอก1
วิวภูทอก

พอมาถึงข้างบนรถจะจอดบริเวณลานจอดรถ แล้วเดินต่อไปไม่ไกลก็จะเป็นจุดชมวิว

วิวหมอกภูทอก
ภูทอก

บนภูทอกสามารถชมทะเลหมอกได้ 360 องศา มองไปทางไหนก็มีแต่หมอก

วิวทะเลหมอกภูทอก
วิวทะเลหมอกภูทอก

พอชมทะเลหมอกบนภูทอกเสร็จก็ลงมาข้างล่างเพื่อเดินทางไปสถานที่ต่อไปก็คือ แก่งคุ้ดคู้

แก่งคุ้ดคู้
แก่งคุ้ดคู้

เดินเล่นดูบรรยากาศริมโขงที่แก่งคุ้ดคู้ แต่คิดว่าถ้ามาช่วงที่น้ำน้อยกว่านี้น่าจะลงไปเดินข้างล่างแม่น้ำโขงได้

วิวแก่งคุ้ดคู้
ริมโขงที่แก่งคุ้ดคู้

เดินเล่น นั่งเล่น แต่ไม่นอนเล่น แถวแก่งคุ้ดคู้สักพักแล้วกลับไปโรงแรมที่เชียงคาน แล้วออกเดินทางไปสถานที่ต่อไป

สกายวอร์คภูคกงิ้ว
สกายวอร์คภูคกงิ้ว

สถานที่ต่อมาคือสกายวอร์คภูคกงิ้ว เป็นสถานที่เที่ยวเปิดใหม่ในปีนี้ที่เชียงคาน การเดินทางมาจากตัวเชียงคานต้องนั่งรถหรือขับรถมาเองจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น

วิวสกายวอร์ค
สกายวอร์คภูคกงิ้ว

ตอนจะขึ้นไปเดินบนสกายวอร์คต้องนั่งรถจากข้างล่างทางขึ้นเสียค่าเดินทางไป – กลับ 20 บาท แล้วเสียค่าซื้อรองเท้าผ้าสำหรับเดินบนสกายวอร์คอีก 30 บาท ถ้ามีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่ในวันที่คนเยอะต้องต่อคิวเดินเข้าสกายวอร์คเพราะจำกัดจำนวนคนเดินบนนั้น

วิวสกายวอร์ค
สกายวอร์ค

ในระหว่างรอเดินบนสกายวอร์คก็สามารถสักการะพระพุทธรูปข้างบนนั้นก่อนได้เลย เสร็จแล้วก็กลับ ก่อนกลับสามารถแวะกินข้าวข้างล่างทางขึ้นได้ มีร้านค้าหลายร้าน แต่ช่วงคนเยอะร้านค้าหลายๆร้านก็จะคนเยอะหน่อย

เชียงคานริมโขง
เรือแล่นในแม่น้ำ

พอกลับมาถึงเชียงคานก็เชียงอินโรงแรม นอนเล่นสักพัก พอตอนเย็นก็ออกมาชมวิวริมแม่น้ำโขงซักหน่อย ตกดึกก็เดินเล่นที่ถนนคนเดินเหมือนวันแรก

หลังจากนั้นก็แวะกินข้าว หาอาหารลองท้อง เดินเล่น จิบเครื่องดื่มตามร้านคาเฟ่

จุดจอดรถรับส่ง

เสร็จแล้วก็ได้เวลากลับ คราวนี้กลับโดยนั่งรถตู้ไปจากเชียงคาน – เลย เสียค่าเดินทาง 250 บาทส่งถึงสนามบินเลย และกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ